เมื่อพูดถึงบาคาร่าและเสือมังกรแล้ว ผู้เล่น คาสิโนออนไลน์ มือใหม่ก็อาจยังไม่คุ้นเคยกับเกมไพ่ต่าง ๆ ที่มีให้เล่น และอาจสับสนจำสลับกันได้ สาเหตุหนึ่งอาจเพราะรูปแบบการเล่นที่คล้ายคลึงกัน กติกาคือการเดิมพันว่าใครจะชนะเหมือนกัน วันนี้เราจะมาคุยกันว่าทั้งสองเกมมีอะไรที่แตกต่างกัน ทั้งรูปแบบและวิธีเล่น ในหัวข้อ บาคาร่าปะทะเสือมังกร ต่อไปนี้
รูปแบบของเกม เสือมังกร บาคาร่าปะทะเสือมังกร
มาเริ่มกันที่เสือมังกรก่อนก็แล้วกัน เสือมังกร คือ เกมไพ่ชนิดหนึ่งที่คล้ายกับบาคาร่าตรงที่ใช้ไพ่หลายสำรับในการเล่น (ประมาณ 5-7 สำรับ) โดยแบ่งออกเป็นสองฝั่งคือฝั่งเสือ (Tiger) และฝั่งมังกร (Dragon) หน้าที่ของผู้เล่นอย่างเราก็แค่วางเดิมพันทายว่าฝั่งไหนจะชนะในรอบนั้น ๆ นั่นเอง
ความแตกต่างแรกของ เสือมังกร กติกา ที่เห็นได้ชัดคือจำนวนไพ่ที่ใช้เล่น ดีลเลอร์จะแจกไพ่ให้แต่ละฝ่ายเพียง 1 ใบ และฝ่ายไหนที่มีคะแนน (แต้มไพ่) สูงสุดถือเป็นฝ่ายชนะ ส่วนการนับคะแนนจะเป็นดังนี้ ไพ่ A=1 คะแนน, ไพ่ J=11 คะแนน, ไพ่ Q=12 คะแนน, ไพ่ K=13 คะแนน และไพ่ที่เป็นตัวเลขจะมีคะแนนเท่ากับเลขที่ปรากฏบนไพ่ เนื่องจากเกมนี้ตัดสินแพ้ชนะด้วยไพ่ใบเดียว ระยะเวลาในการเดิมพันจึงสั้นมาก ส่วนใหญ่แค่ไม่กี่วินาที เสือมังกรออนไลน์ จึงเป็นเกมไพ่เกมหนึ่งที่ใช้เวลาเล่นน้อยที่สุด

เสือมังกร วิธีเล่น บาคาร่าปะทะเสือมังกร สำหรับมือใหม่
การวางเดิมพันของ เสือมังกร วิธีเล่น และการจ่ายเงินเมื่อเราชนะมีดังนี้:
- เสือ (Tiger): ทายว่าฝั่งเสือชนะ อัตราการจ่ายเงิน 1:1
- มังกร (Dragon): ทายว่าฝั่งมังกรชนะ อัตราการจ่ายเงิน 1:1
- เสมอ (Tie): ทายว่าเสมอทั้งสองฝ่าย ในกรณีที่ฝั่งเสือและฝั่งมังกรมีคะแนนเท่ากัน (ไม่จำเป็นต้องมีดอกไพ่เหมือนกัน) อัตราการจ่ายเงิน 1:8
- เสือคู่: ทายว่าฝั่งเสือจะได้ไพ่แต้มคู่ อัตราการจ่ายเงิน 1:1 แต่หากฝั่งเสือได้ไพ่แต้มคี่หรือไพ่ 7 เราจะเสียเดิมพัน
- เสือคี่: ทายว่าฝั่งเสือจะได้ไพ่แต้มคี่ อัตราการจ่ายเงิน 1:1 แต่หากฝั่งเสือได้ไพ่แต้มคู่หรือไพ่ 7 เราก็จะชวดรางวัล
- มังกรคู่: ทายว่าฝั่งมังกรจะได้ไพ่แต้มคู่เท่านั้นถึงจะชนะ หากฝั่งมังกรได้ไพ่แต้มคี่หรือไพ่ 7 จะถือว่าแพ้ อัตราการจ่าย 1:1
- มังกรคี่: ทายว่าฝั่งมังกรจะได้ไพ่แต้มคี่เท่านั้นถึงจะชนะ
รูปแบบของ บาคาร่าออนไลน์ 2023 เล่นง่าย ขั้นตอนน้อย
ต่อไปมาพูดถึง บาคาร่าออนไลน์ 2023 กันบ้าง จุดแรกที่ทั้งสองเกมนี้ต่างกันอยู่ที่การแจกไพ่ สำหรับบาคาร่านั้น ดีลเลอร์จะแจกไพ่ให้ผู้เล่นและเจ้ามือฝั่งละ 2 ใบ หลังจากนั้นจะนับแต้มไพ่เพื่อหาว่าฝั่งใดมีแต้มใกล้เคียงกับ 9 มากที่สุด (แต้มสูงสุดของเกมคือ 9 แต้ม) โดยวิธีนับแต้มไพ่ของบาคาร่ามีดังนี้: ไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม ไพ่ 10 และ J, Q, K มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม และ ไพ่ตัวเลขมีค่าเท่ากับหมายเลขหน้าไพ่ วิธีรวมผลแต้มไพ่คือนำแต้มไพ่สองใบแรกที่ได้รับมาบวกกัน แล้วตัดเหลือแค่หลักหน่วย ตัวอย่างเช่น:
- ไพ่ A + ไพ่ 9 = 10 ตัดเหลือหลักหน่วย ดังนั้นแต้มไพ่เท่ากับ 1 แต้ม
- ไพ่ 5 + ไพ่ 8 = 13 ตัดเหลือหลักหน่วย ดังนั้นแต้มไพ่เท่ากับ 3 แต้ม
นอกจากนี้ยังมีกฎการจั่วไพ่ใบที่ 3 ด้วย รายละเอียดค่อนข้างจะซับซ้อนหน่อย ดีลเลอร์หรือเจ้ามือจะเป็นฝ่ายกำหนดเองว่าใครจะได้จั่วไพ่ใบที่ 3 เมื่อไหร่ ถ้ายังไม่เข้าใจเรื่องนี้ก็ควรหาเวลาศึกษากฎให้ดีเพื่อประโยชน์ในการเล่นเกมของเราเอง ประเดี๋ยวจะนึกไปว่าโดนเจ้ามือโกงซะงั้น
แนะนำบทความ บาคาร่าคือ อะไร อ่านได้ใน: วิธีเล่นบาคาร่า ฉบับละเอียดยิบ เป็นมิตรต่อมือใหม่

กติกาง่าย ๆ ในการ แทงบาคาร่า มือใหม่ก็เล่นได้ เป็นไว
การ แทงบาคาร่า มีกติกาและอัตราการจ่าย ดังนี้:
- ผู้เล่น (Player) ทายว่าฝั่งผู้เล่นชนะ อัตราจ่าย 1:1
- เจ้ามือ (Banker) ทายว่าฝั่งเจ้ามือชนะ อัตราจ่าย 1:1
- เสมอ (Tie) ทายว่าทั้งสองฝั่งได้แต้มเท่ากัน อัตราจ่าย 1:1
- ผู้เล่นคู่: ทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งผู้เล่นจะมีหน้าไพ่เหมือนกัน อัตราจ่าย 1:11
- เจ้ามือคู่: ทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งเจ้ามือจะมีหน้าไพ่เหมือนกัน อัตราจ่าย 1 :11
- ผู้เล่นป๊อก 8: ทายว่าแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกฝั่งผู้เล่นจะเท่ากับ 8 แต้ม อัตราจ่าย 1:8
- ผู้เล่นป๊อก 9: ทายว่าแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกฝั่งผู้เล่นจะเท่ากับ 9 แต้ม อัตราจ่าย 1:8
- เจ้ามือป๊อก 8: ทายว่าแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกฝั่งเจ้ามือจะเท่ากับ 8 แต้ม อัตราจ่าย 1:8
- เจ้ามือป๊อก 9: ทายว่าแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกฝั่งเจ้ามือจะเท่ากับ 9 แต้ม อัตราจ่าย 1:8
- เล็ก (Small) ทายว่าเกมรอบนั้น ๆ จะจบด้วยไพ่ 4 ใบ (ไม่มีการจั่วไพ่ใบที่ 3) อัตราจ่าย 1:0.5
- ใหญ่ (Big) ทายว่าเกมจะจบด้วยไพ่ 5-6 ใบ (มีการจั่วไพ่ใบที่ 3) อัตราจ่ายคือ 1:1.5
- ซุปเปอร์ 6+ ทายว่าฝั่งชนะจะชนะด้วยแต้ม 6 แต้ม หากชนะด้วยไพ่ 2 ใบแรก อัตราจ่ายจะเป็น 1:12 แต่ถ้าชนะด้วยไพ่ 3 ใบ อัตราจ่ายจะเป็น 1:18
คุยกันมาถึงตรงนี้แล้ว หลายท่านอาจจะพอเห็นภาพแล้วว่า บาคาร่า กับ เสือมังกร ต่างกันยังไง แต่อีกเรื่องหนึ่งที่น่าคิดคือบาคาร่าจะมี “สูตร” ให้เลือกใช้มากกว่า ซึ่งท่านใดที่สนใจก็เลือกศึกษากันได้ตามสบายในเว็บไซต์เรา เริ่มจากสูตรยอดฮิตบีกินเนอร์ที่ใคร ๆ ต้องรู้จัก เช่น สูตรมาร์ติงเกล นี้ก็ดี แม้จะการันตีไม่ได้ว่าใช้สูตรแล้วจะชนะได้กำไรไปซะทุกครั้ง แต่อย่างน้อยเราก็มีแนวทางในการเล่น และวางแผนการบริหารงบของเราได้ พึงระลึกไว้ว่าการเดิมพัน บาคาร่า UFABET มีความเสี่ยงเสมอ การใช้สูตรใดก็ตามควรใช้ในกรอบที่จำกัด จัดสรรเงินทุกอย่างเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสีย และเพิ่มโอกาสทำกำไรในระยะยาว
เครดิต : บาคาร่าออนไลน์
อ่านบทความเพิ่มเติม : บาคาร่าประกันภัย
สนใจสมัคร : @ufaae